Last updated: 30 ก.ค. 2556 |
ทำไมถึงต้องเรียนจีน หลังจากที่รมว.กระทรวงศึกษาธิการประกาศโครงการ English Speaking Year 2012 ออกไป หลายคนคงเริ่มให้ความสำคัญกับการเรียนภาษากันมากขึ้น นั่นเพราะภาษาถือเป็นบันไดที่จะทำให้เราก้าวสู่ความสำเร็จและเป็นประตูเชื่อมออกไปสู่ต่างประเทศได้ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งได้กลายมาเป็นภาษากลางของประชาคมอาเซียน ทุกประเทศร่วมถึงประเทศไทยต้องพร้อมรับการเข้ามาของประชาคมอาเซียนในปี 2558 หรือพูดง่ายๆ คือนักศึกษาที่กำลังเข้าศึกษาในปี 2555 นี้ก็ต้องเตรียมตัวพร้อมเรื่องภาษาเพราะเมื่อจบออกไปจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นเนื่องจากตลาดงานไม่ได้ปิดกั้นแค่ในประเทศอีกต่อไป หลายคนมองเพียงภาษาอังกฤษ จริงๆแล้วภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เด็กรุ่นใหม่ต้องรู้และพูดกันได้อยู่แล้ว ปัจจุบันถ้าใครสามารถพูดภาษาที่สามนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ นั่นคือข้อได้เปรียบและกลายเป็นจุดแข็งในทันที ภาษาจีนเป็นอีกภาษาที่คนทั่วโลกใช้กันมากรองลงมาจากภาษาอังกฤษ เหตุใดจึงมีคนใช้ภาษาจีนเยอะและกลายเป็นภาษาที่คนสนใจอยากจะเรียนกันมากขึ้น คำตอบไม่ใช้เพราะประเทศจีนมีประชากรเยอะเพียงอย่างเดียวแต่เพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีการคาดการณ์ว่าจีนจะแซงเป็นเจ้าเศรษฐกิจโลกแทนที่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาในปี 2020 อย่างแน่นอน นอกจากนี้จีนยังมีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 12 ซึ่งจะเข้ามามีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกในด้านการลงทุน อีกทั้งการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน+3 ซึ่งจะมีผลต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคโดยเฉพาะในเขตทะเลจีนใต้ ได้แก่ ประเทศเวียนนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน และประเทศไทย ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศจีนกำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อการค้าการลงทุนในอนาคต และส่งผลให้ภาษาจีนกลายเป็นภาษาที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ใน ปัจจุบันที่เรียนภาษาจีนเพิ่มเติมเป็นภาษาที่สามนอกจากภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีหลักสูตรที่เปิดสอนภาษาจีนมีมากมายทางด้านอักษรศาสตร์/ศิลปศาสตร์ แต่จะเน้นทางด้านภาษาศาสตร์เป็นหลัก ซึ่งหากมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เพิ่มหมวดธุรกิจ การติดต่อระหว่างประเทศจีน ก็จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้ด้านเศรษฐกิจสังคม การค้าการลงทุน และภาษาจีนควบคู่กันไป ซึ่งจะกลายเป็นคุณสมบัติเด่นที่ตลาดงานกำลังต้องการอยู่ในขณะนี้ หลักสูตรจีนศึกษา นานาชาติ วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นอีกหลักสูตรที่น่าสนใจ และเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนหลักสูตรอินเตอร์ ซึ่งนอกจากจะเรียนเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน นักศึกษายังต้องเรียนวิชาทางด้านธุรกิจไม่ว่าจะเป็นวิชาความสัมพันธ์และนโยบายต่างประเทศของจีน การเจรจาธุรกิจเป็นภาษาจีน จีนกับเศรษฐกิจการเมืองโลกในศตวรรษที่ 21 การค้าการลงทุนในประเทศจีน เป็นต้น เรียกได้ว่านักศึกษาที่จบจากวิทยาลัยนี้สามารถใช้ภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้ คล่องและยังมีความรู้ด้านจีนศึกษาอีกด้วย จุดเด่นของหลักสูตรอีกประการคือ เป็นหลักสูตรที่ร่วมมือกับ Peking University, Shanghai International Studies University, Chongqing University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศจีน โดยนักศึกษาในหลักสูตรนี้จะต้องไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา ดังนั้นนักศึกษาจะได้เรียนรู้ทั้งภาษา วัฒนธรรม การทำธุรกิจ และประสบการณ์จริงในประเทศจีนโดยตรงซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าเนื่องจากการเข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยดังเหล่านั้นทำได้ยากมาก |
30 ก.ค. 2556